ปัจจุบัน ปัญหาเรื่องการกัดเซาะชายฝั่งทวีความรุนแรงมากขึ้นและมีอัตราการกัดเซาะเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นทุกปี โดยความรุนแรงในช่วงสิบปีหลัง เกิดมาจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นผลจากเหตุภัยภิบัติสึนามิ เมื่อปี พ.ศ. 2547 ส่งผลทำให้ระดับแผ่นดินเลื่อนตัวต่ำลง จากระดับน้ำทะเลเดิม หรือเหตุการณ์น้ำแข็งขั้วโลกละลาย เป็นการเติมปริมาณน้ำเข้าสู่ทะเลและมหาสมุทรที่เชื่อมต่อกันทั้งโลกใบนี้ เป็นต้น การป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากการกัดเซาะ มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเลและความปลอดภัยของมนุษย์ในหลายด้าน ผลที่ได้จากการป้องกันที่ดี คือการที่เราจะไม่สูญเสียแผ่นดินจากการกัดเซาะชายฝั่งที่รุนแรง และสิ่งแวดล้อมทางทะเลจะไม่ถูกทำลาย รวมถึงระดับคุณภาพของระบบนิเวศทางทะเลและที่อยู่ของสัตว์น้ำ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้นจะไม่สูญหาย ตลอดจนแผ่นดินไม่ตกน้ำ การป้องกันชายฝั่ง ยังสร้างความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวและชาวเรือ เพราะการกัดเซาะชายฝั่ง อาจเป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยวและชาวเรือที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้น การป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง ช่วยลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุทางทะเล และยังสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจและกิจกรรมริมหาดโดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมชายฝั่งที่อยู่ในอุตสหกรรมประมงพื้นบ้านและเกษตรกรรม การบรรเทาการกัดเซาะชายฝั่ง ยังช่วยรักษาความสมดุลของระบบทะเล ซึ่งสำคัญมากสำหรับการจัดการทรัพยากรทางทะเลและการสงวนป้องกันสิ่งแวดล้อมทางทะเล จะทำให้มีจำนวนประชากรสัตว์น้ำทางทะเลเติบโตขึ้น ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมทางทะเลการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง ช่วยในการรักษาพื้นที่ทางทะเลที่สำคัญสำหรับเศรษฐกิจไทย เช่น การท่องเที่ยวทางทะเล การค้าสินค้าทางทะเล และสิ่งปลูกสร้างริมทะเล จะได้รับการปกป้อง อาทิ ถนนทางสัญจร อาคารบ้านเรือน ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานที่จะไม่ได้รับความเสียหาย ไม่ต้องสูญเสียงบประมาณในการซ่อมแซม